ABO Active 3D นวัตกรรมหน้าเรียวสวยลดอายุในขั้นตอนเดียว
ไม่ต้องทำศัลยกรรมก็สวยได้! รีวิวฉีดโบฯ ABO Active 3D จากประเทศอังกฤษ อยากลดริ้วรอย ยกกระชับ ปรับรูปหน้าเรียวสวย ก็สวยจบในขั้นตอนเดียว!
สาว ๆ อย่างเราพอเข้าสู่วัยทำงาน ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง ก็ทำให้ผิวหน้ามีปัญหาหย่อนคล้อย เหนียงห้อย ริ้วรอยต่าง ๆ ก็เริ่มมา เป็นฝันร้ายสุด ๆ เลยว่าไหมคะ คิดจะไปศัลยกรรมดึงหน้า ทำเลเซอร์ลดรอยหลาย ๆ ที ก็ต้องทำงานไม่มีเวลาพักฟื้นอีก เป็นสิ่งที่เราเข้าใจดีเลยค่ะ ดังนั้นถ้าสาวๆ คนไหนงานรัดตัวจนไม่มีเวลา และอยากสวยเร็ว สวยครบจบทุกปัญหา วันนี้เรามีนวัตกรรมที่จะมาแก้ปัญหาความงามให้สาวๆทุกคนสามารถสวยพร้อมทุกสถานการณ์แล้วค่า นั่นคือ ABO Active 3D นวัตกรรมสารลดเลือนริ้วรอย ยกกระชับ ปรับรูปหน้า จากประเทศอังกฤษนั่นเองค่ะ
หลายๆคนฟังแล้วอาจจะไม่คุ้นชื่อ หรือยังไม่รู้จักว่าเป็นนวัตกรรมอะไร แต่ถ้าบอกว่า ABO Active 3D คือการฉีดโบฯ สาวๆก็ต้องร้องอ๋อกันแน่นอน ซึ่งจริงแล้ว ABO Active 3D เป็นผลิตภัณฑ์โบทูลินั่มท็อกซิน (Botulinum Toxin Type A) ยี่ห้อหนึ่ง ที่เป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ทั่วโลกมานานมาก และมีงานวิจัยที่รองรับเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพอีกด้วย เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่ามันเวิร์คจริงไหม วันนี้เราก็เลยจะพาทุกคนไปไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับ ABO Active 3D กันที่ เคเคซี ของขวัญคลินิก โดยแพทย์หญิงของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ คุณหมอประจำคลินิกนี้จะเป็นผู้ให้ข้อมูลเองค่ะ
ริ้วรอยบนใบหน้าเกิดจากอะไร?
ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าเป็นปัญหาที่ใครก็เลี่ยงไม่ได้เลยค่ะ เพราะรอยย่นต่าง ๆ บนใบหน้าเกิดจากการแสดงสีหน้าและอารมณ์ โดยเจ้ากล้ามเนื้อมัดที่เราใช้แสดงสีหน้าจะมีการหดเกร็งบ่อย ๆ ทำให้ผิวหนังเกิดรอยเหี่ยวย่น โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ร้องไห้เก่ง หัวเราะเก่งนี่แหละค่ะ ริ้วรอยและตีนกาถามหาแน่นอน แต่จะให้ฝืนทำหน้านิ่งเพื่อป้องกันปัญหานี้มันก็เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นวงการแพทย์ก็เลยสร้างตัวยาที่ใช้แก้ปัญหานี้ขึ้นมา นั่นคือยา Botulinum Toxin Type A ค่ะ ตัวนี้จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว ผิวหนังที่ย่น ๆ ก็หายไปด้วยตอบโจทย์สุด ๆ เลย
นวัตกรรมเพื่อผิวสวยกระชับ และลดริ้วรอยในขั้นตอนเดียว!
ถ้าอยากลดริ้วรอยแบบไม่ต้องผ่าตัด ต้องไม่พลาดกับนวัตกรรมที่ชื่อว่า ABO Active 3D เลยค่ะ เพราะเขาคือสารลดริ้วรอยจากประเทศอังกฤษที่มีส่วนผสมของยา ABObotulinum Toxin Type A มีคุณสมบัติยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ ที่วงการแพทย์ทั่วโลกใช้อย่างกว้างขวาง มี อย.ระบุ คุณหมอจะใช้ยาตัวนี้มาฉีดกล้ามเนื้อมัดเล็กที่มีการหดเกร็ง เพื่อลดรอยย่นบนผิวหนัง และยังลดขนาดของกล้ามเนื้อกราม ช่วยยกกระชับให้หน้าเรียวสวยขึ้น
โดยคุณหมอของขวัญยืนยันด้วยตัวเองเลยค่ะว่า ABObotulinum Toxin Type A ที่ผลิตจากประเทศอังกฤษนั้น ช่วยเพิ่มการทำงานของ Fibroblast ที่มีหน้าที่สร้างเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในชั้นผิว และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ภายใน 24 ชม. ยานี้เหมาะกับคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป แต่ไม่เหมาะกับว่าที่คุณแม่ที่กำลังตั้งท้อง หรือคนที่ต้องให้นมลูก เพราะอาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ เพราะงั้นคุณแม่ต้องเลี่ยงไปก่อนน้า
การทำ ABO Active 3D
ABO Active 3D เป็นนวัตกรรมที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญของแพทย์สูง เพราะคุณหมอจะต้องวิเคราะห์ตำแหน่งของกล้ามเนื้อที่ต้องฉีดตัวยาเข้าไปได้อย่างแม่นยำ รวมถึงปริมาณของยาที่ต้องควบคุมให้เหมาะสมกับแต่ละคน ปัญหามากน้อยแค่ไหน ต้องฉีดจุดใดบ้างขึ้นอยู่กับพิจารณาของหมอเลยจ้า ซึ่งถ้าหมอไม่ชำนาญจริง ใช้ยาที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือใช้ปริมาณยามากเกินไปก็อาจทำให้หน้าเบี้ยว หรืออย่างร้ายแรงสุดคือกล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจหยุดทำงาน ส่งผลอันตรายถึงชีวิต น่ากลัวมากเลยละค่ะ
ก่อนเข้ารับบริการ 1 อาทิตย์คุณหมอแนะนำให้งดใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs อย่าง Aspirin, Ibuprofen และพวกอาหารเสริมอย่างวิตามินอี ซี น้ำมันปลา และใบแปะก๊วย เพราะมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ทำให้หลังฉีดมีอาการบวมรอยช้ำ ดังนั้นห้ามค่ะห้าม อีกอย่างคืองดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนทำ 24 ชม. ด้วยนะจ๊ะ
วันที่ทำการรักษา พนักงานจะช่วยทำความสะอาดบนใบหน้าของเราให้สะอาดหมดจด ตอนฉีดตัวยาเข้ากล้ามเนื้อจะรู้สึกตึงค่ะ ไม่ค่อยเจ็บนะเหมือนฉีดยาปกติ ตึง ๆ ชา ๆ คุณหมอของขวัญมือเบา ฉีดแปปเดียวก็เสร็จค่ะ ยังงง ๆ อยู่เลยทำไมเร็วจังน้า แต่โดยรวมแล้วปลื้มสุดด เพราะไม่มีรอยช้ำเลย เป็นรอยเข็มนิดหน่อยเอง
ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีด ABO Active 3D
หลังฉีดกล้ามเนื้อตรงกรามดูจะหดเล็กลง ทำให้หน้าดูเรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าดูมีมิติและเห็นกรอบหน้าชัดขึ้น หลังทำเสร็จคุณหมอจะแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังทำอย่างละเอียดว่าไม่ควรจับ ลูบ หรือนวด บริเวณใบหน้าเพราะจะมีผลต่อการกระจายตัวของตัวยา ตอนล้างหน้าให้ใช้น้ำสะอาดล้างและเช็ดอย่างเบามือ และห้ามนอนหงาย หรือนอนตะแคงหลังทำ 4 ชม. ป้องกันยากระจายผิดตำแหน่ง แอลกอฮอล์ก็ยังคงงดเหมือนเดิม และสำคัญสุด ๆ คือเลี่ยงแสงแดด เลเซอร์ที่ใช้ความร้อนต่าง ๆ เพราะจะทำให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ค่ะ
*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับผู้ป่วยเฉพาะราย และระยะเวลาในการรักษา*