2023-11-22

GAIN Inspire : Ensuring Safe & Effective Use of Dermal Fillers and PLLA

“กัลเดอร์มา” ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านความงามของไทย

ผนึกความร่วมมือแพทย์ผู้ชำนาญแถวหน้าของประเทศ จัดสัมมนาวิชาการ“GAIN Inspire : Ensuring Safe & Effective Use of Dermal Fillers and PLLA”

‘กัลเดอร์มา’ (Galderma) ผู้นำนวัตกรรมด้านความงาม เดินหน้าส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์ฯ ของไทย นำคณะแพทย์ผู้ชำนาญการด้านผิวหนัง ความงาม และการปรับรูปหน้าระดับประเทศ จัดสัมมนาวิชาการครั้งใหญ่แห่งปี “GAIN Inspire : Ensuring Safe & Effective Use of Dermal Fillers and PLLA” เผยแพร่องค์ความรู้และเทคนิคการทำหัตถการด้วยสารเติมเต็ม และสารที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหนังที่เสื่อมสภาพตามวัยให้ปลอดภัย พร้อมแนวทางในการป้องกันและช่วยลดความเสี่ยงผลข้างเคียง หรือภาวะแทรกซ้อนจากการทำหัตถการ เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ ทำหัตถการ และดูแลรักษาคนไข้ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งหวังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมความงามไทยสู่ระดับสากล

ภก. พิรพัฒน์ ศรีวัฒนวงศ์ ผู้อำนวยการธุรกิจความงามประเทศไทยและกลุ่มประเทศอาเซียน บริษัท
กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด
กล่าวว่า “กัลเดอร์มา เป็นผู้นำนวัตกรรมด้านความงามระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 40 ปี โดยที่ผ่านมาบริษัทดำเนินงานด้วยความมุ่งมั่นในการเป็นเลิศด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังและโรคผิวหนังในทุกมิติ ควบคู่กับการให้ความสำคัญด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านความงามทั่วโลก บริษัทจึงได้ริเริ่มจัดสัมมนาวิชาการ GAIN Inspire ซึ่งเป็นงานสัมมนาประจำปี โดยแต่ละปี บริษัทจะปรับเปลี่ยนหัวข้อให้เท่าทันกับสถานการณ์และเทรนด์ความงามใหม่ๆ อยู่เสมอ”

ปัจจุบันการเสริมความงามและการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น สารเติมเต็ม สารลดเลือนริ้วรอย และล่าสุดสารที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหนังที่เสื่อมสภาพตามวัย เนื่องจากผู้คนให้การยอมรับว่าเป็นวิธีเติมเต็มความมั่นใจที่ให้ผลลัพธ์ได้น่าพึงพอใจ ปลอดภัย และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น จากการเติบโตของตลาดและกระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้บริโภคบางคนตัดสินใจเข้ารับบริการจากแพทย์ไม่ได้มาตรฐาน หรือใช้ผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบ อาจทำให้เกิดอันตรายและผลข้างเคียงตามมาได้ กัลเดอร์มาจึงนำปัญหาเหล่านี้มาเป็นหัวข้อในการจัดสัมมนาวิชาการ เพื่อต่อยอดพัฒนาองค์ความรู้ด้านการใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย นอกจากนี้ยังแนะนำวิธีการสังเกต ตลอดจนแนวทางการป้องกัน การลดความเสี่ยง และการรับมือกับภาวะแทรกซ้อนของคนไข้ได้อย่างทันถ่วงที เพราะการจัดการปัญหาได้รวดเร็วจะช่วยลดความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อคนไข้ได้

การจัดสัมมนาในครั้งนี้ กัลเดอร์มา เชิญคณะแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสารเติมเต็มความงามและการปรับรูปหน้าแถวหน้าเมืองไทย และในฐานะผู้สอนจาก Galderma Aesthetic Injectors Network (GAIN) นำโดย รองศาสตราจารย์พิเศษ พญ.วิไล ธนสารอักษร ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี, รองศาสตราจารย์ นพ.ถนอม บรรณประเสริฐ, พันตรี นพ.ธนาพงษ์ สมกิจรุ่งโรจน์ ประธานชมรมต้อกระจกและผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติฯ แพทย์เฉพาะทางด้านจอตาและม่านตาอักเสบ รพ. จุฬาลงกรณ์, ผศ. พญ.ปุณยพัศฐิช์ ศิริธนบดีกุล อาจารย์ประจำหน่วยผิวหนัง วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, และ ดร.เบญริตา จิตอารี อาจารย์สาขาพรีคลินิก (กายวิภาคศาสตร์) โรงเรียนแพทย์รามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มาร่วมถ่ายทอดความรู้ เทคนิค และแนวทางการรับมือ รวมถึงการรักษา ทั้งด้านภาคทฤษฎีและการปฏิบัติ กรณีเมื่อเผชิญกับเคสคนไข้ที่มีปัญหาจากการทำหัตถการด้วยสารเติมเต็มและสารที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหนังที่เสื่อมสภาพตามวัย ทั้งนี้ นพ.วชิระ คุณาธาทร Senior Local Mentor Trainer, GAIN Faculty Thailand เป็นผู้ดำเนินรายการงานสัมมนาวิชาการครั้งนี้ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์จากคลินิกความงามชั้นนำทั่วประเทศ รวมกว่า 700 คน

ภก. พิรพัฒน์ กล่าวปิดท้ายว่า “ในฐานะผู้นำนวัตกรรมด้านความงาม บริษัทฯ ขอเน้นย้ำว่า การทำหัตถการเสริมความงามทุกประเภทจะต้องเข้ารับบริการกับผู้ชำนาญการที่มีประสบการณ์ ได้รับการรับรองจากแพทย์สภา และเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่มีผลงานวิจัยรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัย โดยสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ใช้ว่าผ่านการรับรองมาตรฐานของไทย หรือระดับสากล ต้องได้รับการอนุญาตจาก อย. และมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้องตามกฏหมายเท่านั้น ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์ภายใต้บริษัทกัลเดอร์มา สามารถตรวจสอบว่าเป็นผลิตภัณฑ์แท้ ได้ด้วยการสแกน QR Code บนกล่องผลิตภัณฑ์ผ่านแอปพลิเคชัน eZTracker อย่างไรก็ตาม บริษัทจะมุ่งเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านความงามของไทยให้เทียบเท่าระดับสากล ผ่านการจัดสัมมนาวิชาการ และเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ความงามที่ปลอดภัยและมีมาตรฐานระดับสากลออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองทุกความต้องการด้านผิวหนัง ความงาม และโรคผิวหนัง”