ฉีดฟิลเลอร์ปาก ออกแบบปากให้สวยได้ดั่งใจ

การมีริมฝีปากอวบอิ่ม แสดงถึงความเยาว์วัย ดูสุขภาพดี และแน่นอนว่าใคร ๆ ก็อยากมีริมฝีปากที่ดูสวย แต่หลายคนกลับเจอปัญหาริมฝีปากแห้ง แตก ทำให้ดูสุขภาพไม่ดี ริมฝีปากบางหรือหนาเกินไป ดูไม่สมส่วนกับใบหน้า ซึ่งปัญหาริมฝีปากเหล่านี้ สามารถแก้ได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก ออกแบบปากให้สวยได้ดั่งใจ แบบไม่ต้องผ่าตัด อีกทั้งสามารถฉีดปากให้เป็นทรงตามแฟชั่น ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย

ปัญหาของริมฝีปากที่พบบ่อย มีอะไรบ้าง

  1. ริมฝีปากบาง

ริมฝีปากบาง อาจเป็นลักษณะที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดขึ้นจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น เพราะเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ทำให้ปากดูไม่เอิบอิ่ม ริมฝีปากดูบางลง และดูแห้งแตก แลดูสุขภาพไม่ดี เป็นปัญหากวนใจสาว ๆ เพราะนอกจากจะทำให้ทาลิปไม่สวยแล้ว ยังทำให้สีลิปตกร่องได้ง่าย

  1. ริมฝีปากแห้ง ลอกเป็นขุย

เมื่อเข้าสู่หน้าหนาว หลาย ๆ คนมักจะเกิดปัญหาริมฝีปากแตก ปากแห้ง เพราะร่างกายขาดความชุ่มชื้น แต่จริง ๆ แล้วปัญหาริมฝีปากแห้งสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น การดื่มน้ำน้อย การเลียริมฝีปากบ่อย การแพ้สารเคมีหรือเครื่องสำอาง เป็นต้น ทำให้ปากแห้ง ซีด มีร่องเป็นริ้ว ๆ ลองเป็นขุย ดูสุขภาพไม่ดี

  1. ริมฝีปากไม่เท่ากัน

การมีริมฝีปากไม่เท่ากันตั้งแต่กำเนิด มีเนื้อบริเวณริมฝีปากหนาไม่เท่ากัน ทำให้ปากดูเบี้ยวไปทางใดทางหนึ่ง นอกจากนี้ ริมฝีปากเบี้ยวยังเกิดได้จากการศัลยกรรมปากที่ผิดพลาด ทำให้เนื้อปากไม่เท่ากัน เป็นปัญหาที่ทำให้เสียความมั่นใจ

  1. ริมฝีปากคว่ำ

ริมฝีปากทั้งบนและล่างเป็นลักษณะคว่ำลง ทำให้บริเวณมุมปากตก ส่งผลให้ใบหน้าดูดุ ไม่น่าเข้าหา เป็นปัญหาที่อาจทำให้เป็นอุปสรรคในการติดต่อสื่อสาร ประสานงานกับคนอื่น

  1. ขอบปากไม่ชัด

การมีขอบบริเวณริมฝีปากไม่ชัด จางไปกับผิว ทำให้เป็นปัญหาในการทำลิปสติก ต้องเสียเวลาเขียนขอบปากขึ้นมาใหม่ หรือเวลายิ้มแล้วปากดูแบน ไม่โดดเด่น

ฉีดฟิลเลอร์ปากคืออะไร? ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง

การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid หรือ HA เข้าไปเติมเต็มบริเวณริมฝีปาก ช่วยเพิ่มเนื้อปากและปรับขนาดโครงสร้างปากให้ดูอวบอิ่ม แก้ไขปัญหาปากให้เข้ากับรูปหน้า ดูสมดุล สวยเป็นธรรมชาติได้ รวมถึงสามารถปรับรูปทรงปากให้เป็นแบบที่ต้องการได้ เช่น ปากกระจับ ปากหนาอวบอิ่มแบบฝรั่ง หรือที่เรียกว่า "สายฝอ" และปากรูปเชอร์รี่แบบเกาหลี หรือที่เรียกว่า "สายเกา" เป็นต้น

ฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใครบ้าง?

  • คนที่ต้องการแก้ปัญหาริมฝีปากบาง ริมฝีปากไม่เท่ากัน แบบไม่ต้องผ่าตัด
  • คนที่ยังไม่พอใจในรูปปาก ต้องการปรับรูปทรงปาก ให้เป็นทรงสวยแบบที่ต้องการ
  • คนที่มีปัญหาริมฝีปากแห้ง ไม่ชุ่มชื้น
  • คนที่ต้องการปรับใบหน้าให้ตรงตามโหงวเฮ้ง
  • คนที่ต้องการยกมุมปาก ปรับริมฝีปากดูอมยิ้ม

เทคนิคฉีดฟิลเลอร์ปากให้สวย

การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นเทคนิคการแพทย์ที่เป็นสารเติมเต็มเนื้อเยื่อ ปรับรูปทรงปากให้สวย และชุ่มชื้น โดยไม่ต้องวางยาสลบหรือพักฟื้น นอกจาจากจะทำให้ปากมีสัดส่วนที่สมส่วนและอวบอิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาปากบาง ปากคว่ำ รวมถึงปัญหาปากแห้ง โดยแพทย์ที่ฉีดจะต้องมีความเชี่ยวชาญทั้งด้านเทคนิคการแพทย์ และสามารถวิเคราะห์ได้ว่าควรทำทรงปากให้เข้ากับรูปหน้าของแต่ละคนอย่างไรให้เหมาะสม ดูเป็นธรรมชาติที่สุด

ปัญหาริมฝีปากที่แก้ไขได้ ด้วยฟิลเลอร์

  1. ปากบาง ปากไม่เท่ากัน 

แก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อเติมเต็มให้เท่ากัน อีกทั้งสามารถแต่งทรงปากให้ดูสวยไปด้วยได้

  1. ปากคว่ำ

ฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก เสริมโหงวเฮ้งให้หน้าดูเป็นมิตรขึ้น

  1. ปากเบี้ยวจากการทำศัลยกรรมปาก 

ผู้ที่เคยผ่านการศัลยกรรมปากกระจับ บางครั้งอาจมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ทำให้ปากเบี้ยว หรืออาจไม่เท่ากันไปบ้าง ซึ่งสามารถแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก และแต่งทรงให้ดูสมส่วนขึ้นได้

  1. ปากแห้ง

ถ้าทาลิปบาล์มแล้วไม่ดีขึ้น ก็สามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ให้ริมฝีปากอวบอิ่มแบบเป็นธรรมชาติได้

  1. ขอบปากไม่ชัด

ใช้เทคนิคฉีดฟิลเลอร์ขอบปากให้คมชัดขึ้น ดูสวยได้รูป

เทรนด์รูปทรงปากยอดนิยม

  • ทรงปากเกาหลี

เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าทรง Cherry Lips มีลักษณะคล้ายพวงเชอร์รี่ 2 ลูก ประกบกันตรงกลางริมฝีปาก แพทย์จะเน้นฉีดฟิลเลอร์บริเวณกลางปากทั้งบนและล่าง เพื่อทำให้ตรงกลางดูอวบอิ่ม เป็นทรงสวย และทำให้หน้าดูเด็กขึ้น

  • ทรงปากสายฝอ

สามารถทำได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปากให้ดูอวบอิ่มทั้งบนและล่าง โดยเน้นฉีดริมฝีปากล่างให้ดูใหญ่กว่าข้างบนเล็กน้อย และจัดรูปทรงปากด้านบนให้ดูเจ่อนิด ๆ หรือใครชอบปากที่อวบหนาทั้งบนและล่างเท่า ๆ กัน ก็สามารถฉีดฟิลเลอร์เพิ่มได้เช่นกัน

  • ทรงปากกระจับ

เป็นทรงปากที่ได้รูปสวย ทำได้จากการฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก ซึ่งเป็นเทคนิคที่ไม่เน้นฉีดให้ปากดูอวบอิ่ม แต่เป็นการฉีดให้ปากเป็นทรงกระจับ สมส่วนรับกับทุกรูปหน้า

ขั้นตอนฉีดฟิลเลอร์ปากมีอะไรบ้าง?

หากใครที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์ปากครั้งแรกก็อาจรู้สึกกังวลใจบ้าง ซึ่งการทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปากให้ดีก่อน จะช่วยให้คลายความกังวลนี้ได้ โดยมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน และใช้เวลาไม่นานอย่างที่คิด

  1. เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีมาตรฐาน และปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์
  2. เลือกรุ่นและยี่ห้อฟิลเลอร์ปาก ซึ่งฟิลเลอร์แต่ละอย่างมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ทั้งแบบสลายได้เอง และแบบถาวร ซึ่งความเหมาะสมในการเลือกฟิลเลอร์นั้นขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ต้องการฉีด เพื่อความเหมาะสม โดยแพทย์จะเป็นผู้แนะนำให้
  3. ทำความสะอาดใบหน้า และโปะยาชาบริเวณที่ต้องฉีดฟิลเลอร์ปาก
  4. เช็กยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ก่อนฉีด เพื่อดูให้แน่ใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้เท่านั้น โดยดูได้จากขวดบรรจุภัณฑ์ ฉลาก และควรเป็นขวดที่เปิดใหม่
  5. แพทย์ฉีดฟิลเลอร์ปากทีละจุด พร้อมทั้งค่อยๆ ปรับทรงให้สวยได้รูปไปด้วย
  6. ประคบน้ำแข็งขณะฉีดฟิลเลอร์ เพื่อลดอาการบวม และความเจ็บขณะทำ
  7. แพทย์แนะนำการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์
  8. นัดติดตามอาการหลังฉีดฟิลเลอร์

หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วอาจมีอาการบวมเล็กน้อยจากการอักเสบของเข็มที่จิ้มเข้าไป ซึ่งเป็นอาการที่สามารถหายได้ภายใน 3 วัน โดยไม่ทั้งแผลเป็นไว้ให้กวนใจ

ยี่ห้อฟิลเลอร์ปากรุ่นไหนดีที่สุด?

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่น มีความยืดหยุ่นและคงสภาพอยู่ได้นานไม่เท่ากัน โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจรณายี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่จะต้องฉีดอย่างเหมาะสม

ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมในการฉีดปากมากที่สุดคือ ฟิลเลอร์ที่เป็นสารเติมเต็มกลุ่มไฮยารูลอนิกแอซิด ผลิตจากประเทศสวีเดน เป็นฟิลเลอร์ที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยี NASHA & OBT ที่คลินิกเสริมความงาม และโรงพยาบาลให้การยอมรับทั่วโลก พร้อมทั้งผ่านการรับรองจาก U.S. FDA และ อย. ประเทศไทย

ฟิลเลอร์ปากแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่โดดเด่นต่างกัน ดังนี้

ฟิลเลอร์ Kysse 

  • ฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นน้อยกว่ารุ่นอื่น ๆ ที่นิยมฉีดเพื่อจัดรูปทรงขอบปากให้ชัดขึ้น พร้อมมอบความชุ่มชื้นและความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก 
  • คงสภาพอยู่ได้ 12 เดือน

ฟิลเลอร์ Vital Light 

  • ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เหมาะกับผู้ที่ริมฝีปากแห้ง เป็นร่องลึก ฉีดแล้วปากจะอวบอิ่มขึ้นเล็กน้อย
  • คงสภาพอยู่ได้ 6-12 เดือน

ฟิลเลอร์ Volyme

  • เป็นฟิลเลอร์ปากที่มีความยืดหยุ่นสูงกว่ารุ่นอื่น ๆ ข้างต้น ฉีดแล้วปากจะดูชุ่มชื้น สุขภาพดี เป็นที่นิยมในการฉีดปากกระจับ
  • คงสภาพอยู่ได้ 18 เดือน

ฟิลเลอร์ Refyne 

  • มีความยืดหยุ่นสูง ฉีดแล้วจึงดูเป็นธรรมชาติ สามารถขยับ และแสดงอารมณ์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ผู้ที่ได้รับการฉีดรู้สึกสบายหน้า
  • คงสภาพอยู่ได้ 12 เดือน

ฟิลเลอร์แท้ เช็กอย่างไร

ในปัจจุบัน พบว่ามีการใช้ฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ที่ Galderma ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทางธุรกิจ อย่างไรก็ตาม สามารถสังเกตฟิลเลอร์ปลอมได้ ดังนี้

  • มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
  • มีฉลากภาษาไทยข้างกล่อง
  • เอกสารประกอบการค้าเป็นภาษาไทย
  • มีสติ๊กเกอร์โฮโลแกรมฟิลเลอร์แบรนด์ Restylane GALDERMA 
  • เลข Lot ข้างกล่อง และเลข Lot ที่หลอดฟิลเลอร์ตรงกัน

ฉีดฟิลเลอร์ปากอันตรายไหม?

ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ที่สร้างขึ้นมา เพื่อเลียนแบบสารในร่างกายในร่างกาย เป็นสารที่ทดแทนโครงสร้างของร่างกายที่หายไปได้ เช่น คอลลาเจนและอิลาสติน อีกทั้งยังมีคุณภาพสูงณสมบัติ ทำให้มีความปลอดภัย ไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และยังสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ใช้และเทคนิคที่ฉีด

เนื่องจากภายในริมฝีปากประกอบด้วยเส้นเลือดฝอยหล่อเลี้ยงจำนวนมาก และมีเส้นนเลือดสำคัญที่อยู่ลึกลงไป โดยแพทย์จะฉีดฟิลเลอร์บริเวรเส้นเลือดฝอย จึงไม่เป็นอันตรายหรือมีผลข้างเคียงที่รุนแรง ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยมาก เมื่อเทียบกับการฉีดฟิลเลอร์ในส่วนอื่น ๆ ของใบหน้า อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงในการฉีดฟิลเลอร์ปากจะยิ่งลดลง ถ้าเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ที่ชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์

ในกรณีที่ได้รับการผ่าตัดริมฝีปากมาก่อน จะต้องบอกให้แพทย์ทราบก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะจะมีพังผืดบริเวณที่ผ่าตัด แพทย์จึงต้องระวังเป็นพิเศษ ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้ว่าอาจทำให้เส้นเลือดอุดตันหลังฉีดฟิลเลอร์ และจะต้องได้รับการฉีดสลายฟิลเลอร์ภายหลังในระยะเวลา 7-14 วัน

สรุปได้ว่า การฉีดฟิลเลอร์ปากไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย. และระดับสากล ที่สำคัญคือต้องฉีดกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

ถ้าฉีดฟิลเลอร์ปากปลอมจะเป็นยังไง?

การฉีดฟิลเลอร์ปากด้วยฟิลเลอร์ปลอมย่อมมีความเสี่ยงที่สูงมาก และมีวิธีแก้ไขที่ยุ่งยาก หรืออาจไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย ซึ่งหลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์แล้ว สามารถสังเกตอาการผิดปกติได้ ดังนี้

  • มีอาการอักเสบรุนแรง มีหนอง และติดเชื้อ
  • แพ้สารที่ฉีด
  • ฟิลเลอร์มีลักษณะแข็ง ไม่ยืดหยุ่น หรือไม่เป็นรูปเป็นร่างที่ควรจะเป็น
  • ฟิลเลอร์ปลอมส่วนใหญ่ไม่มีคุณสมบัติที่สลายได้เอง
  • เจ็บบริเวณที่ฉีดมาก ๆ และมีอาการบวมร่วมด้วย

นอกจากนี้ อาจมีอาการผิดปกติที่ร้ายแรงในบางราย เช่น เส้นประสาทถูกทำลาย เนื้อตาย หรืออาจถึงขั้นตาบอด ซึ่งเป็นอาการที่พบได้จากการฉีดฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่สามารถฉีดสลายได้ แต่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการขูดออก หรืออาจต้องผ่าตัด เพื่อป้องกันปัญหาใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว

ดังนั้น ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากทุกครั้ง ควรเช็กก่อนว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของแท้ เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับฟิลเลอร์ที่ผ่านมาตรฐาน ปลอดภัย และที่สำคัญอีกอย่างนั้นต้องฉีดกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญเท่านั้น ไม่ควรฉีดกับคลินิก หรือแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์

ทำไมฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อนแข็ง?

ปกติแล้วหลังฉีดฟิลเลอร์แล้วภายใน 14 วัน ถ้ายังบวมเป็นก้อนไม่หาย มีลักษณะแข็ง อาจเกิดจากสาเหตุเหล่านี้

  • แพทย์ฉีดฟิลเลอร์ผิดพลาด โดยอาจฉีดที่ชั้นผิวหนังที่ตื้นเกินไป ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดกับผู้ที่ปากบาง
  • แพทย์เลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อหรือรุ่นที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งบนใบหน้า
  • แพทย์คำนวณปริมาณฟิลเลอร์ผิด อาจฉีดมากเกินความจำเป็น จึงทำให้ปากบวมและเป็นก้อนได้
  • ดูแลตัวเองไม่ดี ไม่ทำตามคำแนะนำของแพทย์ทั้งก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์
  • ฉีดปากด้วยฟิลเลอร์ปลอม

อาการแพ้ฟิลเลอร์เป็นอย่างไร

เป็นอาการที่แพ้สารบางอย่างที่ผสมอยู่ในฟิลเลอร์ ซึ่งมีโอกาศเพียง 1% เท่านั้นที่จะเจอผู้ที่แพ้ Hyaluronic Acid แบ่งเป็นอาการแพ้ 2 ประเภท ประกอบด้วย

  • มีลมพิษที่ผิวรุนแรงบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
  • มีก้อนบวม แดง และอักเสบที่สังเกตได้ภายใน 6 เดือน หลังฉีดฟิลเลอร์

ผลข้างเคียงรุนแรง

  • ฟิลเลอร์ไหลไปบริเวณอื่นที่ไม่ได้ตั้งใจฉีด
  • ฟิลเลอร์อุตันเส้นเลือด ทำให้เนื้อตาย และอาจอัตตรายถึงชีวิต
  • สูญเสียการมองเห็น หรืออาจตาบอดได้ เพราะฟิลเลอร์ไหลไปอุดตันเส้นเลือดบริเวณดวงตา

วิธีแก้ไขฟิลเลอร์ปากเป็นก้อน

แก้ปัญหาด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอ็นไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase : HYAL) เข้าไปทีละน้อย เพื่อสลายฟิลเลอร์แท้ที่สลายได้ ซึ่งเอ็นไซม์ชนิดนี้จะเข้าไปสลายฟิลเลอร์ด้วยการลดการอุ้มน้ำ เพื่อสลายฟิลเลอร์ใต้ชั้นผิว พร้อมทั้งปรับสมดุลผิวให้กลับมาเหมือนเดิม หรือใกล้เคียงผิวแบบเดิมได้ โดยฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายไปจนหมดภายใน 2 วัน

หลังจากฉีดสลายฟิลเลอร์ปากแล้ว แพทย์จะนัดติดตามอาการ เพื่อเช็กให้แน่ใจว่าไม่มีฟิลเลอร์หลงเหลืออยู่ ถ้าพบว่าก้อนฟิลเลอร์ยังสลายไม่หมด ก็จะมีการพิจารณาฉีดสลายฟิลเลอร์อีก 1-2 ครั้ง ภายใน 1 เดือน ซึ่งมีระยะเวลาแตกต่างกันไปตามขนาดของก้อนฟิลเลอร์ และตำแหน่งที่มีปัญหา 

นอกจากนี้ อาจมีอาการข้างเคียงหลังฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ โดยทั่วไปถ้าพบว่ามีอาการคันและบวมแดงผิดปกติบริเวณที่ฉีด ควรรีบพบแพทย์เพื่อหาทางแก้ไขต่อไป 

สรุปว่า ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ปากกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ และต้องใช้ฟิลเลอร์แท้ที่สามารถสลายได้ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงฟิลเลอร์ปากเป็นก้อนหลังฉีด และยังช่วยให้การแก้ไขทำได้ง่ายกว่าฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายได้

ฉีดสลายฟิลเลอร์ปากได้ไหม?

ยาที่ใช้ฉีดสลายฟิลเลอร์คือ เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส เป็นสารที่ย่อยสลายกรดไฮยาลูโรนิกที่เป็นส่วนประกอบหลักของฟิลเลอร์ได้ ซึ่งแพทยท์จะเป็นผู้วินิจฉัยว่าต้องฉีดสารสลายฟิลเลอร์ปริมาณเท่าไรถึงจะมีประสิทธิภาพในการสลายฟิลเลอร์ได้ทั้งหมด

การแก้ไขทรงปากที่เกิดจากความผิดพลาดทางเทคนิค ไม่ว่าจะเป็นความไม่ชำนาญของแพทย์ที่อาจคำนวณปริมาณ cc ของฟิลเลอร์ผิดพลาด จึงทำให้ปากบวมมากเกินไป ไม่สมส่วนกับใบหน้า ทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่สวยตามความคาดหวัง

การฉีดสลายฟิลเลอร์จึงเป็นวิธีแก้ปัญหาที่รวดเร็วและตรงจุดที่สุด สามารถฉีดสลายได้เฉพาะฟิลเลอร์ที่สามารถสลายได้ไปตามกาลเวลาเท่านั้น แต่ไม่สามารถทำได้กับฟิลเลอร์ปลอม และฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายได้ แต่หากฉีดเข้าไปแล้วและต้องการแกไข ก็ควรได้รับการผ่าตัด หรือขูดฟิลเลอร์ออกให้หมด เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นอันตรายในอนาคต

สิ่งที่ควรรู้ ก่อนฉีดสลายฟิลเลอร์

  • ปริมาณฟิลเลอร์ (cc) ที่ฉีด
  • ตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์
  • ยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์
  • เช็กว่าฟิลเลอร์เป็นของแท้หรือไม่
  • เข้าใจขั้นตอนการฉีดสลายฟิลเลอร์

ข้อดีและข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์ปาก

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด จึงมีข้อดี คือ สามารถปรับรูปทรงปากให้ดูอวบอิ่ม เป็นทรงตามที่ต้องการได้ เช่น ปากกระจับ ปากอวบอิ่ม เป็นต้น สามารถแก้ปัญหาริมฝีปากบาง หรือริมฝีปากไม่เท่ากันได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเจ็บตัว และไม่ต้องพักฟื้น รวมถึงแก้ปัญหาริมฝีปากบางเกินไปที่เกิดจากการผ่าศัลยกรรมปากกระจับในบางกรณีได้

แต่ข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ ฟิลเลอร์จะอยู่ไม่ถาวร หากต้องการทำปากกระจับแบบถาวร อาจต้องใช้วิธีการผ่าตัดศัลยกรรมปาก ซึ่งจะมีความเสี่ยงและหากเกิดข้อผิดพลาดจะแก้ไขได้ยาก ในจุดนี้อาจมองว่าเป็นข้อดีของฟิลเลอร์สำหรับบางคนได้ เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่สลายได้ 100% ตามระยะเวลาของผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นที่ใช้ ซึ่งสามารถฉีดซ้ำได้ ทำให้สามารถเปลี่ยนรูปทรงปากได้ตามความนิยมตลอดเวลา

ฟิลเลอร์ปาก VS ผ่าตัดปาก ต่างกันอย่างไร?

การทำฟิลเลอร์ปากและศัลกรรมปากเป็นวิธีแก้ปัญหาเฉพาะจุดทั้งคู่ ซึ่งมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป โดยฟิลเลอร์เป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่ช่วยให้ปากอวบอิ่ม ชุ่มชื้น และเป็นทรงสวยได้ตามต้องการ แต่ไม่สามารถคงสภาพถาวรได้ ยกเว้นจะเป็นฟิลเลอร์ชนิดที่สลายไม่ได้ ต่างจากการทำศัลยกรรมปากที่เป็นการผ่าตัดแบบถาวร หากผ่าตัดผิดพลาด ก็จะแก้ไขได้ยากกว่าการฉีดฟิลเลอร์ปาก

ฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อแก้ปัญหาหลังศัลยกรรมปากได้ไหม

การทำศัลยกรรมปากบางครั้งอาจจำเป็นต้องตัดเนื้อเยื้อบางส่วนออก ทำให้ปากบางขึ้น ถ้าผ่าตัดเนื้อเยื่อออกมากเกินไป ก็อาจทำให้ปากบางผิดปกติหลังผ่าตัดได้ แต่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์เติมเต็ม เพื่อชดเชยเนื้อเยื่อที่เสียไป 

ปัญหาการแก้ไขปากบางส่วนใหญ่เป็นกรณีที่เกิดจากการทำศัลยกรรมปากกระจับที่ผิดพลาด การฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นการแก้ไขที่ได้ผลดี และรวดเร็ว โดยแพทย์จะพิจารณาความเหมาะสมในการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะพังผืดใต้ผิวปากเป็นข้อจำกัดในการฉีดฟิลเลอร์ เช่น ถ้ามีพังผืดมาก ก็จะฉีดฟิลเลอร์ได้ในปริมาณน้อย ดังนั้น การวินิจฉัยของแพทย์จึงมีส่วนสำคัญมากในการแก้ไขปากบางหลังการผ่าตัด

อย่างไรก็ตาม การทำปากกระจับทำได้ทั้งเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์และการผ่าตัด โดยพิจารณาความเหมาะสมได้จากเหตุผลเหล่านี้

ผู้ที่เหมาะกับการทำฟิลเลอร์ปาก

  • แก้ปัญหาปากบาง
  • แก้ปัญหาปากไม่เท่ากัน มุมปากตก ปากคว่ำ 
  • ผู้ที่มีปากเเห้งมาก ๆ ทาลิปแล้วตกร่อง

ผู้ที่เหมาะกับทำผ่าตัดปากกระจับ

  • ผู้ที่มีริมฝีปากหนาเกินไป
  • ปากเป็นเส้นตรง ไม่มีกระจับที่มุมปาก
  • ปากบนและล่างไม่สมดุลกัน เช่น ริมฝีปากบนหนาเกินไป

ทำไมต้องฉีด Filler ปากกับคลินิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์จาก Galderma

Galderma เป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่ใหญ่ที่สุดของโลก ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ Dermal Filler ฟิลเลอร์นวัตกรรม NASHA & OBT โดย Dermal Filler ของ Galderma ได้ผสานเทคโนโลยีทั้ง NASHA Technology และ OBT Technology เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ยืนยันผลการรักษากว่า 40 ล้านการรักษาจากทั่วโลก ใน 80 ประเทศ จึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์นี้ผ่านการยอมรับจากแพทย์ด้านผิวหนังและความงามทั่วโลก

นอกจากนี้ Galderma ยังมีผลิตภัณฑ์ ‘Kysse’ ฟิลเลอร์สำหรับริมฝีปากโดยเฉพาะ ด้วยเทคโนโลยี OBT Technology ™ เพื่อการเคลื่อนไหวที่ยืดหยุ่นและดูเป็นธรรมชาติ ปรับริมฝีปากให้ดูกระชับ เข้ารูป มีความอิ่มเอิบ เติมเต็มร่องบริเวณริมฝีปากให้ดูเรียบเนียน แล้วยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ปากไม่แห้งกร้าน คงผลลัพธ์ได้นานถึง 1 ปี

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก

  1. เพื่อให้ได้รูปปากที่สวยอย่างเป็นธรรมชาติ ควรศึกษาหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ต่าง ๆ และเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีใบอนุญาตเท่านั้น
  2. ศึกษาแพทย์ประจำคลินิก ที่เป็นผู้ฉีดฟิลเลอร์ ควรมีรีวิวที่เป็นรีวิวของผู้ใช้งานจริง และมีเนื้อหาที่หลากหลาย
  3. ศึกษาวิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ เนื่องจากแพทย์จะแกะกล่องฟิลเลอร์ใหม่ให้คนไข้ดูก่อนฉีดฟิลเลอร์
  4. งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง หรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
  5. ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิว และการแว็ก
  6. งดยากลุ่ม NSAIDs เช่น แอสไพริน ibruprofen, diclofenac, ponstan อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีด
  7. หากมีโรคประจำตัวต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทำ

การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

เพื่อให้ได้ปากทรงสวย ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและอยู่ได้นาน คนไข้ควรศึกษาข้อมูล และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ โดยวิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก มีดังนี้

  1. ไม่ควรจับ บีบ นวด หรือสัมผัสแรง ๆ บริเวณริมฝีปาก เพื่ออาจทำให้รูปปากเปลี่ยนรูปได้
  2. งดการขยับริมฝีปากมาก ๆ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง เช่น การอ้าปากกว้าง การดูดน้ำจากหลอด เป็นต้น
  3. ดื่มน้ำมาก ๆ เพราะฟิลเลอร์มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี ดังนั้นการดื่มน้ำจะช่วยทำให้ฟิลเลอร์อิ่มฟูและอยู่ได้นานยิ่งขึ้น
  4. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะไปกระตุ้นการสูบฉีดของเลือด อาจจะทำให้เกิดเลือดออกในบริเวณที่ฉีด ทำให้อักเสบ
  5. งดสูบบุหรี่ งดดื่มเครื่องดื่มร้อน เพราะอาจทำให้ริมฝีปากเกิดการระคายเคือง บวมและอักเสบ อีกทั้งความร้อนนพทำให้ผิวยืดหดมากกว่าปกติ ส่งผลต่อการเซ็ตตัวของฟิลเลอร์
  6. งดอาหารเสริม วิตามิน เช่น โสม คอลลาเจน วิตามินซี และวิตามินอี เป็นต้น เพราะจะทำให้เกิดอาการช้ำได้

วิธีเช็กฟิลเลอร์ปาก

การฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจและสวยได้อย่างปลอดภัย จะต้องเลือกคลินิกที่เชื่อถือได้และมีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ที่สามารถตรวจสอบได้ แพทย์ประจำคลินิกมีใบอนุญาต มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญ มีรีวิวที่หลากหลาย เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ

ที่สำคัญ จะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งประเทศไทย สำหรับการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ Dermal Filler ฟิลเลอร์นวัตกรรม NASHA & OBT สามารถเช็คเลข Lot และคลินิก ได้ที่ บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์นวัตกรรม NASHA & OBT เจ้าเดียวในไทย หรือเพียง Download Application eZtracker แล้ว Scan QR code บนกล่องผลิตภัณฑ์ได้เลย

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Galderma

บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ ฟิลเลอร์ Restylane ฟิลเลอร์นวัตกรรม NASHA&OBT เพียงเจ้าเดียวในประเทศไทย มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นของแท้และมีมาตรฐาน สวยได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ใต้ตา หรือฟิลเลอร์ปาก และ Galderma ยังเป็นแบรนด์เดียวที่พัฒนา ผลิตภัณฑ์ KYSSE สารเติมเต็มแรกที่ออกแบบมาเพื่อริมฝีปากโดยเฉพาะ

นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ความงามอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Original SKINBOOSTERS เติมผิวสวยสุขภาพดี ใบหน้าเงา ผิวหน้าฉ่ำวาวอย่างเป็นธรรมชาติ และ ABO ACTIVE นวัตกรรมโบอังกฤษ ลดริ้วรอยอย่างตรงจุด ผิวชุ่มชื้นอิ่มฟู แข็งแรงจากภายใน ผลลัพธ์ยาวนานถึง 1 ปี ตอบโจทย์สาว ๆ ได้ทุกปัญหาผิว