การฉีดฟิลเลอร์คางคือ การฉีดสารเติมเต็มที่เรียกว่า Hyaluronic Acid ที่บริเวณคาง เพื่อปรับรูปหน้าให้ดูหน้าเรียวมากขึ้น ส่วนใหญ่หลังจากฉีดฟิลเลอร์คางแล้วมักเห็นผลทันที ต่างจากการผ่าตัดที่จะมีผลข้างเคียงอย่างอาการบวมช้ำมากกว่า อย่างไรก็ตามมีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ยังกังวลใจว่า การทำฟิลเลอร์บริเวณคางจะช่วยในเรื่องไหนได้บ้าง รวมถึงเป็นอันตรายกับใบหน้ามากน้อยเพียงใด ดังนั้นการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ถูกต้อง จะลดโอกาสเสี่ยงและความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นบนใบหน้าได้
การเลือกฉีดฟิลเลอร์คาง จะช่วยปรับแต่งใบหน้าให้เข้ารูป ดูกระชับ มีความเรียวสวย เติมคางให้ดูยาวขึ้นด้วยการฉีดสารประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไป ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเพิ่มความสวยให้กับรูปคางตามแบบฉบับ “Golden Ratio” โดยไม่ต้องผ่าตัด
Golden Ratio คือ “สัดส่วนทองคำ” บนใบหน้า เป็นสัดส่วนแบบ 1:1:1 เพื่อให้มั่นใจว่าใบหน้าของสาว ๆ มีขนาดเหมาะสม วิธีคือ ให้ใช้ฝ่ามือประทับลงไปบนใบหน้าทั้งหมด 3 ส่วนประกอบด้วย Upper Face ส่วนด้านบน เป็นการวัดสัดส่วนตั้งแต่ไรผมถึงหัวคิ้ว, Middle Face ส่วนตรงกลาง วัดตั้งแต่คิ้วจนถึงปลายจมูก และ Lower Face ส่วนด้านล่าง วัดตั้งแต่ปลายจมูกถึงปลายคาง โดยแต่ละส่วนของใบหน้าที่ฝ่ามือวางลงไปต้องมีขนาดพอดี ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป จึงจะนับเป็น Golden Ratio 1:1:1 ที่ถูกต้อง หากใครที่วัดไปแล้วคางสั้นหรือยาวกว่าฝ่ามือ ก็ต้องทำการฉีด ฟิลเลอร์คาง เพื่อปรับรูปหน้าให้สมส่วน
ข้อดี
ข้อเสีย
การฉีดฟิลเลอร์คาง : เป็นการปรับแต่งใบหน้าให้เข้ารูปได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลาน้อย ทำให้ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น หลังฉีดฟิลเลอร์คางจะเห็นผลลัพธ์ได้ทันที ไม่บวมช้ำ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งการฉีดคางเรียวด้วยฟิลเลอร์ตอบโจทย์คนที่อยากมีคางสวยแต่ไม่อยากผ่าตัดใหญ่
การผ่าตัดเสริมคาง : เป็นการเปลี่ยนรูปคางแบบถาวรโดยการผ่าตัด ใช้เวลามากกว่า มีกระบวนการที่เสี่ยงกว่าและทำได้ยากกว่า ต้องปรึกษาแพทย์และอยู่ในความดูแลแพทย์อย่างใกล้ชิด หลังผ่าตัดต้องใช้เวลาพักฟื้นและต้องดูแลแผลอย่างถูกต้อง หากทำมาแล้วไม่ชอบจะแก้ไขรูปทรงได้ยากกว่าการฉีดฟิลเลอร์คาง
ฟิลเลอร์คางเหมาะกับใครบ้าง?
ความอันตรายของการฉีดฟิลเลอร์คาง จะอยู่ตรงการเลือกใช้บริการแพทย์และผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานหรือไม่? หากเป็นแพทย์ชำนาญการ พร้อมด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน ได้คุณภาพ ความอันตรายจะลดลงมาก ผลข้างเคียงแทบไม่เกิดเลยด้วยซ้ำ หรือถ้าจะมีก็เล็กน้อย เช่น มีรอยรูเล็ก ๆ บริเวณที่มีการฉีดฟิลเลอร์คาง ในทางกลับกัน หากรับการบริการจากแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ อาจทำให้คางมีสัดส่วนที่ไม่ได้รูป เช่น เป็นคางมะม่วง และมีโอกาสที่จะทำให้เกิดผลข้างเคียงคือ ฟิลเลอร์คาง เป็นก้อน เนื่องจากฉีดเข้าไปผิดบริเวณ ใช้ฟิลเลอร์มากเกินไป จะทำให้บริเวณที่ฉีดจับกันเป็นก้อน จนอาจไม่สามารถสลายได้ ดังนั้นการฉีด ฟิลเลอร์คาง จะไม่เกิดอันตรายกับผู้รับบริการ เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และมีความปลอดภัย
การฉีดคางด้วยฟิลเลอร์นั้นมีความปลอดภัย เพราะฟิลเลอร์ที่ใช้นั้น เป็นสารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่ได้กล่าวเอาไว้ข้างต้น สารชนิดนี้ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะร่างกายสามารถสร้างเอนไซม์ Hyaluronidase มาช่วยในการสลาย HA เมื่อเวลาผ่านไปก็จะค่อย ๆ สลายไป ไม่มีการตกค้างไว้ หรือเกิดผลข้างเคียง ปกติแล้วการฉีด ฟิลเลอร์คาง จะเห็นผลได้ราว ๆ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของผลิตภัณฑ์ และการตอบสนองของร่างกายเมื่อได้รับเข้าไป อย่างไรก็ตามหากเป็นฟิลเลอร์คางที่ไม่มีคุณภาพก็จะให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม และมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่อันตรายต่อร่างกายหลายเท่า จึงเน้นย้ำเสมอว่าต้องฉีดคางเรียวกับแพทย์ที่ใช้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพเท่านั้น
การฉีดฟิลเลอร์คาง ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้เท่านั้น ซึ่งการเช็คว่าตัวไหนแท้ ตัวไหนเทียมทำได้ไม่ยาก เพียงแค่ทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน eZTracker จากนั้นทำการสแกน QR Code ที่อยู่บนกล่องผลิตภัณฑ์ดังกล่าว หากเป็นของแท้ จะระบุว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถูกนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฏหมาย โดยบริษัทกัลเดอร์มา(ประเทศไทย)จำกัด พื้นหลังเป็นสีเขียว แต่ถ้าเป็นพื้นหลังสีส้มและเครื่องหมายคำถาม หมายถึง ไม่มีข้อมูลของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าที่ถูกกฎหมาย แสดงว่าเป็นผลิตภัณฑ์ต้องสงสัย ไม่ควรใช้โดยเด็ดขาด เพราะอาจเกิดผลเสียจนถึงขั้นต้อง “ขูดฟิลเลอร์คาง” เลยก็ได้
เท่านี้ก็จะช่วยให้การตรวจสอบฟิลเลอร์เป็นเรื่องง่ายขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตามบางคนที่จะไปทำ ฟิลเลอร์คาง มีข้อสงสัยว่าในเมื่อแพทย์ที่ฉีดมีการเตรียมฟิลเลอร์ใส่หลอดฉีดมาเรียบร้อยจะสังเกตอย่างไร? สามารถตรวจสอบได้ไม่ยาก เพียงแค่ขอดูกล่องผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ แล้วทำการสแกน QR Code ด้วยแอปพลิเคชัน eZTracker ก็สามารถตรวจสอบได้ทันที
สำหรับสาว ๆ คนไหนมีความสนใจอยากฉีดคาง ก็จำเป็นต้องรู้วิธีดูแลตนเองให้เหมาะสมทั้งก่อนและหลัง เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงตามมา และเป็นการสร้างความมั่นใจว่าเมื่อทำลงไปแล้วจะได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง โดยการดูแลตนเองนั้นไม่ยาก
อีกเรื่องที่สำคัญมาก ๆ สำหรับคนที่ฉีดฟิลเลอร์บริเวณคางมาเรียบร้อยแล้วคือ ระวังเรื่องการเอามือตนเองเท้าคาง โดยเฉพาะช่วงที่ทำมาใหม่ ๆ และฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี เพราะอาจทำให้รูปคางเปลี่ยนไปจากน้ำหนักมือ
วิธีแก้ไข/รักษา อาการฉีดฟิลเลอร์คางแล้วเป็นก้อน
กรณีฉีดฟิลเลอร์คางที่ไม่ได้มาตรฐาน บวมเป็นก้อนและเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ หรือ ฟิลเลอร์คางผิดเทคนิค จนฟิลเลอร์กองกันเป็นก้อน สามารถแก้ได้ด้วยการฉีดสลาย ซึ่งต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้ Hyaluronidase ในการสลายเท่านั้น
ปัจจุบันฟิลเลอร์มีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก มีคุณสมบัติและมีจุดเด่นแตกต่างกันไป สำหรับฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย และรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดบริเวณคาง ที่แนะนำ คือ ฟิลเลอร์ Restylane ซึ่งเป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน โดยบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ผลิตและนำเข้าผลิตภัณฑ์ Restylane เจ้าเดียวในไทย
ฟิลเลอร์ Restylane ใช้ 2 นวัตกรรมหลักในการผลิต คือ
โดยนวัตกรรมดังกล่าวของฟิลเลอร์ Restylane สามารถอยู่ได้ยาวนานตั้งแต่ 12-24 เดือน และสำหรับผลิตภัณฑ์ของฟิลเลอร์ Restylane ที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์คาง มี 2 ผลิตภัณฑ์ คือ
1. ผลิตภัณฑ์ LYFT เนื้อฟิลเลอร์มีลักษณะแข็งแแรงและคงรูปที่สุด อายุการใช้งาน
2. ผลิตภัณฑ์ DEFYNE เนื้อฟิลเลอร์มีลักษณะขึ้นรูปแต่อ่อนนุ่มเหมาะสำหรับผู้มีผิวบาง
การฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยปรับรูปหน้าได้ทันที เห็นผลรวดเร็วมาก สัมผัสได้ว่าใบหน้ามีความกระชับเข้ารูปหลังผ่านไปเพียงไม่กี่วัน
การฉีดฟิลเลอร์คาง จะเหมาะกับคนที่มีขนาดคางสั้น ไม่ได้สัดส่วน เมื่อแพทย์ตรวจวินิจฉัยแล้วว่าสามารถใช้วิธีนี้ได้ ก็จะเริ่มต้นดำเนินการทันที ความโดดเด่นของการฉีดฟิลเลอร์คางคือ เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการแล้วจะเห็นผลรวดเร็วมาก สัมผัสได้ว่าใบหน้ามีความกระชับเข้ารูปหลังผ่านไปเพียงไม่กี่วัน ช่วยแก้ปัญหาสำหรับคนที่คางสั้นให้เกิดสัดส่วนเหมาะสม โครงหน้ามีความเป็น V-Shape แบบธรรมชาติ ตอบโจทย์กับผู้ที่ต้องการเติมเต็มความสวยให้ตนเองด้วยระยะเวลาที่จำกัด แทบไม่มีผลข้างเคียงยกเว้นรอยเข็มเล็ก ๆ บนใบหน้าซึ่งภายใน 3-5 วัน ก็จะค่อย ๆ หายไปเอง
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดคางไม่ได้มีผลต่อความยาวของคางที่มากขึ้น แต่อาจทำให้เกิดผลเสียตามมาด้วย อีกสิ่งที่คนตัดสินใจเพิ่มความเรียวสวยของใบหน้าให้กับตนเองด้วยวิธีนี้คือ จากเดิมที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจเรื่องใบหน้า ไม่ว่าจะมีใบหน้ากลม หรือไม่ได้สัดส่วน ก็จะมีความมั่นใจมากขึ้น เมื่อได้ฉีดฟิลเลอร์ เพราะผุ้รับบริการ จะสัมผัสได้ถึงคางที่ได้รูปทรงมากขึ้น เพิ่มความมั่นใจมากขึ้น
ในการเลือกสถานที่ฉีด ฟิลเลอร์คาง จำเป็นต้องมีเกณฑ์ในการเลือกอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และมั่นใจว่าไม่ส่งผลเสียหรือผลข้างเคียงใด ๆ หลังทำเสร็จ โดยมีหลักง่าย ๆ ดังนี้
1.เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจดูได้จากรีวิวของผู้ใช้งานจริง หรือดารา คนดังที่เข้าไปใช้บริการ
2.ใช้บริการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ความชำนาญในการทำ ฟิลเลอร์คาง โดยตรง มีใบประกอบวิชาชีพแสดงชัดเจน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดังที่ตั้งใจเอาไว้มากที่สุด
3.ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพเท่านั้น เพราะแม้จะเลือกคลินิกดี แพทย์มีความเชี่ยวชาญ แต่ถ้าผลิตภัณฑ์ฉีดฟิลเลอร์คางที่ใช้ไม่เหมาะสม ผลลัพธ์ที่ได้ก็มีโอกาสตรงกันข้ามกับความตั้งใจสูงมาก เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อน มีลักษณะแข็ง คางบวม หรือแย่สุด ๆ อาจทำให้เนื้อบริเวณคางตายได้
ค้นหาคลินิกที่ให้บริการใกล้ที่สุด
Q: ฟิลเลอร์คางฉีดกี่ cc?
A: แต่ละคนใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการฉีด เช่น ฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมคางให้ยาวขึ้น ฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปคาง เป็นต้น โดยทั่วไปบริเวณคางจะฉีดประมาณ 1-2 CC
Q: ฉีดฟิลเลอร์คางเจ็บไหม?
A: การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นอาการเจ็บที่ทนได้ ซึ่งโดยปกติจะมีการทายาชาเพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บได้ และฟิลเลอร์บางตัวมียาชาผสมอีกด้วย